WHO เตือนโควิด-19 อาจเสียชีวิตแตะ 2 ล้านคน ก่อนมีวัคซีน - ช่อง 7

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อาจสูงถึง 2 ล้านคน หากแต่ละชาติยังไม่ผนึกกำลังกันแก้ไขปัญหาด้วยความเป็นเอกภาพ โดยคำเตือนมีขึ้นภายหลังจากข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานผู้ติดเชื้อที่พุ่งมากกว่า 32 ล้านคน และเสียชีวิตใกล้แตะ 1 ล้านคน ท่ามกลางความพยายามของแต่ละชาติที่ต่างเร่งแข่งขันพัฒนาวัคซีน

ขณะที่เว็บไซต์เวิลโอมิเตอร์ส ดอท อินโฟ (worldometers.info) เว็บไซต์รวบรวมสถานการณ์โควิด-19 แบบเรียลไทม์ รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 27 กันยายน 2563 เวลา 09.30 น. พบมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นโดยมียอดรวมสะสมอยู่ที่ 33,053,209 คน มีผู้เสียชีวิตรวม 998,716 คน และรักษาหายแล้ว 24,405,924 คน

สำหรับ 5 ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากที่สุด ได้แก่
1.สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสม 7,287,561 คน
2.อินเดีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 5,9905,581 คน
3.บราซิล มีผู้ติดเชื้อสะสม 4,718,115 คน
4.รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,143,571 คน
5.โคลัมเบีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 806,038 คน

ส่วน 5 ประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สะสมมากที่สุด ได้แก่
1.สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตสะสม 209,117 คน
2.บราซิล มีผู้เสียชีวิตสะสม 141,441 คน
3.อินเดีย มีผู้เสียชีวิตสะสม 94,534 คน
4.เม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตสะสม 75,844 คน
5.สหราชอาณาจักร มีผู้เสียชีวิตสะสม 42,060 คน

กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมา รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบวันที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 879 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมพุ่งขึ้นเเป็น 9,991 คนโดยตัวเลขผู้ติดเชื้อในเมียนมาได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในทุกสัปดาห์ และเสียชีวิต 198 คนแล้ว

ขณะเดียวกัน มีประชาชนที่อยู่ระหว่างการกักตัวอยู่อีกกว่า 6,000 คน ทำให้กองทัพเมียนมาเตรียมเปิดรับผู้ป่วยที่เป็นพลเรือนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของกองทัพเป็นครั้งแรก โดยสามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้ประมาณ 1,500 คน นอกจากนี้ ทางการเมียนมา ยังประกาศขยายเวลาการระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2563

ด้านอินโดนีเซีย ในรอบ 24 ชั่วโมง มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 4,494 คน โดยจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดอยู่ที่กรุงจาการ์ตา นับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้วที่อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อพุ่งเกินวันละ 4,000 คน ส่งผลให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 270,000 คน เสียชีวิต 10,308 คน โดยอินโดนีเซียนับเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะที่อังกฤษ เกิดเหตุชุลมุนระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ โดยออกมารวมตัวกันบริเวณจัตุรัสทราฟัลการ์ ในกรุงลอนดอน เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าไปสลายการชุมนุม เนื่องจากผู้ประท้วงไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ไม่สวมหน้ากาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงอย่างน้อย 10 คน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ทั้งนี้ นับตั้งแต่วานนี้ (26 ก.ย.63) อังกฤษเริ่มบังคับใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง โดยห้ามประชาชนในบางพื้นที่ออกไปรวมตัวสังสรรค์กันในบ้านหรือในสวนของบ้านผู้อื่น อีกทั้งสหราชอาณาจักร มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงเกินวันละ 6,000 คน เป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีกด้วย

ด้านนายนเรนทรา โมดิ นายกรัฐมนตรีอินเดีย ให้คำมั่นระหว่างการประชุมสหประชาชาติที่จัดขึ้นผ่านระบบทางไกล ว่าอินเดียในฐานะที่เป็นประเทศแหล่งผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลก การผลิตและการจัดส่งวัคซีนของอินเดียจะถูกใช้เพื่อช่วยมนุษย์ทุกคนในการต่อสู้กับวิกฤตครั้งนี้ โดยทั่วโลกถือเป็นครอบครัวเดียวกัน

Let's block ads! (Why?)