ยอดเหยื่อโควิดสหรัฐฯ ทะลุ 200,000 ศพ คาดตายพุ่งอีกนับแสนช่วงสิ้นปี - ไทยรัฐ

ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ ทะลุ 200,000 รายแล้ว เป็นไปตามคำทำนายของ ดร.เฟาชี ขณะที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกนับแสนรายในช่วงสิ้นปีนี้

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจนมากกว่า 200,000 ศพแล้ว ในวันอังคารที่ 22 ก.ย. 2563 โดยกว่า 70% เป็นผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี ขณะที่ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ ตอนนี้สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสมรณะชนิดนี้วันละประมาณ 800 คน ซึ่งลดลงจากช่วงพีคที่สุดเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่มีผู้เคราะห์ร้ายถึง 2,806 ศพมาก

ในช่วงเดือนแรกของการระบาด ดร.แอนโธนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อแถวหน้าของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่อาจคร่าชีวิตชาวอเมริกันถึง 200,000 ราย และเตือนด้วยว่า เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สหรัฐฯ จะเผชิญสถานการณ์เลวร้ายจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว เขายังแสดงความกังวลอีกว่า หลายพื้นที่ของประเทศไม่ได้บังคับใช้มาตรการทางสาธารณสุข

ด้าน สถาบันสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน คาดการณ์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะเพิ่มเป็น 378,000 ศพ ในช่วงสิ้นปี 2563 โดยยอดผู้เสียชีวิตรายวันจะพุ่งทะยานเป็นวันละ 3,000 ศพในเดือนธันวาคม

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวว่า เขาทำหน้าที่ได้อย่างมหัศจรรย์ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 “มันเกือบจะไม่ได้ส่งผลกระทบกับใครเลย นั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก มันส่งผลกระทบต่อ...คนชราที่มีปัญหาด้านหัวใจและปัญหาอื่นๆ ถ้าหากพวกเขามีปัญหาอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจริงน่ะนะ” นายทรัมป์ กล่าวขณะที่ไวรัสโคโรนาทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 6.9 ล้านคน

ทั้งนี้ นายทรัมป์ กล่าวถึงคลิปเสียงของตัวเองที่เปิดโปงว่า เขาพยายามปฏิเสธอันตรายของไวรัสโควิด-19 ในช่วงเริ่มแรกของการระบาด เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความแตกตื่น แม้ว่าเขาจะมีข้อมูลเรื่องความร้ายกาจของไวรัสชนิดนี้ และมักจะโต้แย้งคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่เรื่องเวลาที่วัคซีนจะพร้อม ไปจนถึงเวลาที่ควรเปิดโรงเรียน นายทรัมป์ยังไม่สนับสนุนการออกคำสั่งให้ใส่หน้ากากป้องกันโรคมาตลอด จนกระทั่งยอมใส่เองในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

นายโรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ บอกกับสภาคองเกรสเมื่อไม่นานมานี้ว่า การสวมหน้ากากสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้ดีกว่าวัคซีนเสียอีก และคาดว่าวัคซีนจะเริ่มมีให้ใช้เป็นวงกว้างภายในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 หรือไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ขณะที่นายทรัมป์อ้างว่า วัคซีนจะพร้อมใช้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย.นี้

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)